‘กนกนคร’ ตำนานรักซวยซ้ำซ้อนของพญาคนธรรพ์ ! (ภาคจบ)
“มีเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้ได้กลับสวรรค์… พวกเจ้าต้องไปเกิดใหม่ โคจรมารักกัน
พลัดพรากจากกัน แล้วก็ต้องฆ่ากันให้ตายในท้ายที่สุด”
ตอนต่อของนิทาน ‘กนกนคร’ ที่เล่าค้างไว้มาถึงแล้วจ้า !
คราวที่แล้วเราได้รู้ว่าพญากมลมิตรขอพรสำเร็จ แถมภรรยาที่มาจากการขอพรของเขาก็งามหยดย้อยไม่เบา แต่เพราะเขาดันไปแกล้งแหย่ฤาษีให้ตบะแตกแท้ ๆ ทั้งคู่จึงโดนสาปให้เกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อชดใช้ความผิดพร้อมกันเสียเลย รีบมาฟังเรื่องราวหลังจากนั้นกันเถอะ !
ภาคที่ 2 : บนดิน
เรื่องราวบนโลกมนุษย์เริ่มต้นที่อนุศยินีซึ่งเกิดใหม่เป็นเจ้าหญิง ‘กนกเรขา’ กนกเรขาเป็นเจ้าหญิงที่งดงามมาก เหมือนนางฟ้านางสวรรค์อย่างกับแกะ (แหงล่ะ ก็หน้าตาเหมือนตอนอยู่บนสวรรค์เลยนี่) เวลาผ่านไปจนถึงเวลาที่นางต้องมีคู่ครอง พระบิดาจึงเริ่มเฟ้นหาสามีที่คู่ควรให้ แต่นางกนกเรขากลับไม่ยอมแต่ง โดยอ้างว่าชาตินี้ไม่อยากคิดคบใคร เพราะตนเองมีเนื้อคู่อยู่แล้ว หากจะแต่ง ต้องแต่งกับชายผู้ที่รู้เรื่องเมืองทองเท่านั้น ! (พระศิวะเข้าฝันนางว่าเนื้อคู่ของนางต้องรู้เรื่องเมืองทองน่ะเธอ)
พระบิดาได้ยินดังนั้นก็รีบประกาศหาชายที่รู้เรื่องเมืองทองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีชายใดเล่าล่วงรู้เรื่องนี้เลย จนกระทั่งเจ้าชายจากดินแดนหนึ่งทราบความเข้า…
ตัดมาที่ฝ่ายพญากมลมิตร พญาคนธรรพ์ได้เกิดเป็นเจ้าชาย ‘อมรสิงห์’ อมรสิงห์เป็นเจ้าชายมากฝีมือ หน้าตาหล่อเหลา แต่ไม่ยอมมีภรรยาสักที การที่อมรสิงห์ไม่ยอมมีภรรยาสักทีนั้นก็เป็นประเด็นถกเถียงกับพระบิดาอยู่บ่อยครั้ง จนเผลอหลุดปากพูดว่าเนื้อคู่ของตนเองอยู่ในฝัน นางเป็นผู้หญิงพายเรือกลางสระบัว พระบิดาได้ยินแล้วก็โกรธมากจนกลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต สุดท้ายเจ้าชายหนุ่มจึงจำต้องหนีออกจากเมือง ในขณะนั้นเองเขาก็ได้ยินข่าวการหาคู่ของเจ้าหญิงกนกเรขาพอดิบพอดี อมรสิงห์นั้นไม่รู้เรื่องเมืองทองแต่ประการใด แต่เพราะอยากรู้ว่าเจ้าหญิงคนสวยจะสวยสักเพียงไหน เขาจึงโกหกไปว่าตนเองนั้นรู้เรื่องเมืองทองจนได้โอกาสเข้าเฝ้า
เออ ให้มันได้แบบนี้ เล่นพิเรนทร์ไปอีกนะคุณพี่ !
เมื่อได้พบกันอมรสิงห์ก็ตกหลุมรักกนกเรขาตั้งแต่แรกพบ แต่เมื่อนางถามถึงเรื่องเมืองทอง เขากลับอ้ำอึ้งและตอบไม่ได้ เลยกลายเป็นโดนไล่ตะเพิดออกจากวัง เห็นแบบนี้เจ้าหญิงกนกเรขาก็แอบเสียดายไม่น้อย เพราะนางเองก็ชอบพออมรสิงห์อยู่เช่นกัน (แต่ความโกรธมันมากกว่า ก็คนมันโดนหลอกอะ !) ภายหลังออกจากวัง อมรสิงห์จึงตั้งใจตามหาเมืองทองให้เจอ เพื่อจะได้กลับมาแต่งงานกับกนกเรขาให้ได้นั่นเอง
หลังจากนั้นเรื่องราวการผจญภัยของเจ้าชายอมรสิงห์ก็เริ่มต้นขึ้น เขาได้พบรากษส (ยักษ์ร้าย) พยายามเข้ามายั่วยวน แต่เพราะบอกไปว่าคนที่สวยที่สุดในโลกคือกนกเรขาตามนิสัยดั้งเดิม นางยักษ์จึงโกรธมาก เวลาผ่านไป เจ้าชายได้พบกับนกสองตัวกำลังหิ้วศพพญาหงส์ทองผ่านมา นกบอกว่าพวกตนนั้นบินไปถึงเมืองทอง แต่พญาหงส์ทองกลับขาดใจตายก่อน
ครั้นได้ยินว่าเจ้านกรู้จักเมืองทอง หูของเสด็จพี่ก็ผึ่งสิจ๊ะ อมรสิงห์รีบยกดาบขึ้นจี้ เอ๊ย ! สั่งให้นกทั้งสองพาตนเองไปยังเมืองทองทันที (แบบนี้ก็ได้หรือลูกพี่) ในระหว่างที่เกาะขานกทั้งสองบินไป เจ้าชายหนุ่มดันใจลอยไปถึงนางกนกเรขาแล้วพลั้งเผลอปล่อยมือตัวหล่นร่วงลงกลางทะเล ร้อนถึงพระศิวะที่ต้องส่งปลายักษ์มาช่วยพาไปส่งยังเกาะเมืองทองอีก เดชะบุญแท้ ๆ
การขึ้นเกาะของอมรสิงห์ทำให้เขาค้นพบว่าเมืองทองนี้ ‘ทอง’ สมชื่อ เพราะเมืองทั้งเมืองล้วนทำด้วยทองจริง ๆ แต่กระนั้นกลับไม่มีใครอาศัยอยู่สักคน เจ้าชายเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงพระราชวัง ที่ใจกลางของพระราชวังนั้นมีเตียงตั้งอยู่ เมื่อเขาเข้าไปสำรวจก็ตกใจมากที่เห็น ‘ศพ’ ของนางกนกเรขานอนอยู่ อมรสิงห์จมอยู่ในความทุกข์อยู่นาน จนกระทั่งได้ยินเสียงประกาศหาคู่ให้นางกนกเรขาดังมาจากบ่อน้ำ เขาจึงเดินไปดู แล้วพลัดตกลงไปในบ่อ…
บ่อน้ำบ่อนี้พาเจ้าชายทะลุกลับมายังเมืองของเจ้าหญิงกนกเรขาอย่างน่าอัศจรรย์ อมรสิงห์รีบขอเข้าเฝ้าอีกครั้งท่ามกลางเสียงก่นด่าของทุกฝ่าย (ก็คราวที่แล้วโกหกชาวโลกเขาไว้นี่นะ) เจ้าชายหนุ่มยืนยันว่าคราวนี้ไปมาแล้วจริง ๆ ไม่ได้ขี้จุ๊ แถมยังเล่าเรื่องเมืองทองให้ฟังได้ทุกอย่าง เมื่อเจ้าหญิงได้ฟังก็ระลึกชาติได้ นางจึงรีบวิ่งไปหาสามีหมายจะกอด แต่แล้ว… เจ้าหญิงก็สิ้นลมหายใจมันเสียตรงนั้นเลย
วิญญาณของกนกเรขากระเด็นกลับไปอยู่ในร่างที่เมืองทอง ส่วนฝ่ายชายที่เห็นหญิงที่รักจากไปคาตาก็สติแตก วิ่งเข้าป่าแบบไม่เกรงกลัวอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น จนพระศิวะ (ท่านอีกแล้วเรอะ) ต้องลงมาสั่งสัตว์ป่าต่าง ๆ ให้ไม่ทำร้ายอมรสิงห์จนถึงตายนะเออ
เรื่องตัดไปยังฝั่งเจ้าหญิงกนกเรขาบ้าง เมื่อฟื้นคืนชีพ นางได้พบว่าในเมืองทองแห่งนี้ไม่มีใครอาศัยอยู่เลย นางจึงเดินไปยังริมชายฝั่งและได้พบเรือหลงพายุมา ไหน ๆ ก็มีโอกาสทองแล้ว กนกเรขาจึงขอติดเรือกลับบ้านเมืองด้วยคน แต่กัปตันเรือดันเป็นแมลงภู่มักมากและหมายจะจับสาวงามมาเป็นภรรยา กนกเรขาพอจะบ่ายเบี่ยงเอาตัวรอดไปได้ แต่แล้วเมื่อกลับเข้าฝั่ง กัปตันก็จับนางมาขังไว้ที่บ้าน
ในระหว่างที่กัปตันไปอาบน้ำแต่งตัว ที่นอกบ้านดันมีพระราชาทรงช้างผ่านมาพอดี กนกเรขาจึงฉวยโอกาสนี้หลบหนีออกมาและขอติดไปกับพระราชาด้วย ฝ่ายพระราชาเห็นกนกเรขารูปงามจึงคิดจับเป็นภรรยาอีกคน กนกเรขาที่ซวยซ้ำซวยซ้อนพยายามหาทางเอาตัวรอดเช่นเดิม โชคดีที่นางหนีไปหาพระราชินีและขอให้พระองค์ช่วยเหลือ นางเลยหนีเข้าป่าได้ทันเวลาพอดี
เกิดเป็นสาวงามนี่น่าสงสารแท้ ๆ คิดเหมือนกันไหม ?
การเข้าป่าของเจ้าหญิงกนกเรขาล้วนเต็มไปด้วยอันตราย ไม่ว่าจะจากพวกโจรป่าใจโฉดที่ตั้งใจจะขืนใจนางบ้าง สัตว์ร้ายที่จะทำอันตรายบ้าง แต่ที่น่ากลัวที่สุดคงหนีไม่พ้นรากษสที่อมรสิงห์เคยตอกกลับไปว่าสวยสู้นางกนกเรขาไม่ได้นั่นล่ะ ยักษ์ขี้อิจฉาล้างแค้นด้วยการแปลงกายเป็นอมรสิงห์ให้เจ้าหญิงตกหลุมพราง ก่อนจะคลายคืนเป็นอสูรอยู่หลายทีจนกนกเรขาสติแตกอีกคน ครั้นอมรสิงห์ตามหานางจนเจอ นางก็ชิงวิ่งหนีไปเสียอีก คราวนี้อสูรเลยแปลงกายเป็นเสือพลันกระโดดคร่อมนางกนกเรขาเอาไว้ อมรสิงห์ไม่รอช้าชักดาบฟาดฟันสัตว์ร้ายทันที แต่เพราะสัตว์ร้ายนั้นเป็นร่างจำแลงด้วยเวทมนตร์ เมื่อฟันแล้วอสูรจึงหายไป หลงเหลือแต่เพียงคมดาบที่ฟันเข้าใส่นางอันเป็นที่รักอย่างจัง
คราวนี้นางกนกเรขาสิ้นชีวิตแล้วจริง ๆ ส่วนอมรสิงห์ที่ฆ่าคนรักด้วยน้ำมือตนเองก็รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจึงตายตามนางไปอีกคน…
สองสามีภรรยาหลุดพ้นจากคำสาป และได้หวนคืนสู่สรวงสวรรค์ดังเดิม
บรรณานุกรม
Admint. “กนกนคร.” วชิรญาณ, 11 Apr. 2018, vajirayana.org/%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3.
“เล่าเรื่องกนกนคร – Writer.in.th: The Writer Community.” เล่าเรื่องกนกนคร, www.writer.in.th/chapter/65-10.
เรียบเรียงโดย : ธมลวรรณ กระต่ายทอง
ภาพ นักศึกษาฝึกงาน : Minori Pinorin