1168 PUBLISHING
สาระแฟนตาซี

นิยายสยองขวัญ ‘สตีเฟน คิง’ สู่ 5 ภาพยนตร์ดัง

     สตีเฟน เอ็ดวิน คิง (Stephen Edwin King) หรือสตีเฟน คิง เป็นนักเขียนนิยายแนวเขย่าขวัญนักอ่านสายสยองขวัญ ชื่นชอบลี้ลับไม่มีทางไม่รู้จักท่านผู้นี้ สตีเฟน คิง เป็นนักเขียนที่มีนิยายถูกดัดแปลงไปเป็นภาพยนตร์มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะผลงานในแนวสยองขวัญ ที่มีผลงานมากมายยาวนานถึง 4 ทศวรรษ แต่ก็มีหนังจากนิยายหลาย ๆ เรื่องของคิงที่ไม่ใช่แนวสยองขวัญก็กลายเป็นหนังทำเงินอยู่หลายเรื่องเช่นกัน วันนี้จะมายกตัวอย่าง นิยายสยองขวัญของคิง ที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ มีเรื่องอะไรบ้าง มาดูกัน !?

Carrie

จากนิยายปี 1974  สู่ภาพยนตร์ปี 1976 – เวอร์ชั่นรีเมคปี 2013

แครี่ ไวท์ เด็กสาววัยรุ่นธรรมดาทั่วไปที่มีลักษณะนิสัยเงียบขรึมอาศัยอยู่กับแม่ที่บ้าคลั่งลัทธิ และเธอก็ยังถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเป็นประจำ เธอทำได้แค่อดทนและไม่ตอบโต้ใด ๆ จนวันหนึ่งเธอได้ค้นพบว่าเธอมีพลังจิตที่สามารถสั่งได้ตามที่เธอต้องการ แต่พลังนั้นจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อตอนที่เธอโกรธและส่วนมากก็จะเป็นพลังด้านลบทั้งนั้น

แต่แล้ว ‘ทอม’ หนุ่มสุดฮอตประจำโรงเรียนได้ชวนเธอไปงานพรอม วันนั้นทำให้เธอได้กลายเป็นควีนประจำงาน ดูเหมือนจะมีความสุขใช่ไหมล่ะ? ไม่มีทางที่หนังสยองขวัญจะปล่อยให้ตัวเอกมีความสุขได้ง่าย ๆ เมื่อแครี่ขึ้นรับรางวัลตำแหน่งควีน เลือดหมูสดได้เทลงมาด้วยฝีมือของ ‘คริส’และเธอก็ได้รู้ความจริงว่าที่ทอมเข้ามาจีบเธอนั้นเป็นแค่แผนหลวงเท่านั้น นั่นทำให้เธอโกรธแค้นจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และนี่เป็นต้นเหตุของความสยดสยองที่ทุกคนในโรงเรียนต้องได้รับสมกับความแค้นของแครี่!!

The shining

จากนิยายปี 1977 สู่ภาพยนตร์ปี 1980

ครอบครัวทอร์เรนซ์ ประกอบด้วย ‘แจ็ค’ ‘เวนดี้’ ‘แดนนี่’ ได้รับงานใหม่ให้เฝ้าโรงแรมโอเวอร์ลุคสุดหรูที่จะปิดลงในฤดูหนาว เหมือนจะเป็นข่าวดีสำหรับครอบครัวทอร์เรนซ์ที่จะได้เริ่มต้นใหม่ เนื่องจากแจ็คดื่มเหล้าทุกวันจนเริ่มทำร้ายร่างกายลูกจนแขนหักและทำให้ต้องออกจากงานประจำที่ทำอยู่ เมื่อได้มาเฝ้าโรงแรมโอเวอร์ลุคแจ็คก็ได้เริ่มเขียนหนังสืออีกครั้ง เรื่องทุกอย่างกำลังจะไปด้วยดีแต่เรื่องหลอน ๆ ก็ได้เกิดขึ้นกับแดนนี่ที่มีสัมผัสที่หก มันคงไม่แย่ไปกว่านี้เมื่อแดนนี่ได้เปิดห้องหมายเลข 237 ห้องที่ฮัลโลแรนพนักงานผิวสีได้เตือนแดนนี้ไว้ก่อนหน้านี้ พลังจิตของแดนนี่เหมือนเป็นการเชื้อเชิญเหล่าวิญญาณมากขึ้นกว่าเดิม และเรื่องราวสุดหลอน สุดสยองขวัญก็ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวทอร์เรนซ์

The mist

จากนิยายสั้นปี 1980 สู่ภาพยนตร์ปี 2008

หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกปริศนาที่กระชากวิญญาณผู้คนที่อยู่อาศัยจนต้องหนีตายไปอยู่ร้านซุปเปอร์มาเก็ต เมื่อแสงไฟเป็นเหมือนแสงสว่างของทุกคนแต่แสงไฟนั้นกลับดึงดูดเหล่าสัตว์ประหลาดให้เข้ามาทำร้ายผู้คนที่หลบในซุปเปอร์มาเก็ตจนบาดเจ็บเกือบทั้งหมดทำให้ยาไม่พอที่จะรักษา

พระเอกและอาสาสมัครส่วนหนึ่งได้ออกไปหายาจากร้านขายยาใกล้ ๆ เมื่อเข้าไปพวกเขาก็เจอบางอย่างที่น่าแปลกใจนั่นคือชายที่ถูกพันด้วยใยแมงมุมและเอาแต่พูดว่า ‘ขอโทษ’ พวกเขาจึงรีบหนีออกมาแต่ไม่ใช่ทุกคนที่หนีออกมาได้ เพราะบางคนก็ได้หายไปในหมอกอสูรกาย แต่แล้วความจริงก็ได้เปิดเผยว่าหมอกที่ได้พรากชีวิตคนในเมืองมาจากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่าโลกเรามีอีกมิติหนึ่งที่เชื่อมกันอยู่ การทดลองนั้นทำให้สัตว์ประหลาดที่อยู่อีกมิติออกมากับหมอกและฆ่าผู้คนในเมือง เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ความสยดสยองแต่ยังแฝงไปด้วยความโหดร้ายของมนุษย์ ความเห็นแก่ตัวเมื่อต้องเอาชีวิตรอด
แถมตอนจบก็ยัง…เอาเป็นว่าต้องไปดูเอง

Pet sematary

จากนิยายสั้นปี 1983 สู่ภาพยนตร์ปี 1989 – เวอร์ชั่นรีเมคล่าสุดในปี 2019

สุสานลึกลับที่มีความเชื่อว่า “หากนำสิ่งมีชีวิตที่ตายไปฝั่ง มันจะฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง” แต่มันก็นำพาความสยองและความตายกลับมาด้วย

เมื่อนายแพทย์หลุยส์ ครีดและครอบครัวได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านที่ห่างไกลจากตัวเมืองเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับลูกและภรรยาให้มากขึ้นแต่ถนนเส้นหลักของบ้านกลับเป็นเส้นทางสัญจรของรถบรรทุกซึ่งมักขับด้วยความเร็วสูง สัตว์ที่วิ่งข้ามถนนจึงถูกรถชนตายบ่อย ๆ จนวันหนึ่งพวกเขาเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งสวมหน้ากากสัตว์เดินเข้าไปในป่าหลังบ้าน พวกเขาจึงได้รู้ว่าถนนหลังบ้านเชื่อมกับสุสานสัตว์เลี้ยง จั๊ด ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านได้บอกเล่าความเป็นมาของสุสานสัตว์เลี้ยงแห่งนี้ว่าหากนำสัตว์เลี้ยงที่ตายไปแล้วมาฝังไว้ สัตว์ที่ตายจะฟื้นกลับมาเหมือนเดิม แล้ววันนั้นก็มาถึงเมื่อแมวของแอลลี่ ลูกสาวของเขาถูกรถชนตาย เขาจึงนำไปฝังไว้ที่สุสาน ครีดก็ต้องประหลาดใจเพราะแมวกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมแต่แมวกลับเหม็นเน่าไม่ต่างอะไรจากตอนตาย นิสัยก็โหดร้ายกว่าตอนที่ยังมีชีวิต แต่สิ่งที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือแอลลี่ลูกสาวของเขาถูกรถบรรทุกชนทำให้ผู้เป็นพ่อไม่สมารถรับความจริงได้ เขาจึงนำลูกสาวของเขาไปฝังไว้ที่หลุมศพเช่นเดียวกันกับแมว เรื่องราวสยองขวัญกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เมื่อแอลลี่กลับมามีชีวิตเช่นเดิมแต่ไม่ใช่แอลลี่คนเดิมที่ทุกคนเคยรู้จัก เมื่อการกลับมาของแอลลี่ได้นำพาซึ่งการไล่ล่าและการฆาตกรรมที่โหดร้าย

It

จากนิยายสั้นปี 1986 สู่ภาพยนตร์ปี 2017 – และมีภาค 2 ในปี 2019

‘จอร์จี้’ น้องชายของบิลได้หายตัวไปหลังจากที่เขาได้ตามเรือกระดาษที่ติดอยู่ในท่อระบายน้ำ เหตุการณ์นั้นทำให้บิลรู้สึกผิดเพราะคิดว่าตนเองคือต้นเหตุที่ทำให้น้องชายหายไป หลังจากนั้นบิลก็ได้รวมกลุ่มกับเด็ก ๆ ในโรงเรียนภายใต้กลุ่มที่ชื่อว่า ‘แก๊งคนขี้แพ้’ เพราะพวกเขามักจะถูกแกล้งเป็นประจำ

บิลและผองเพื่อนได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับเมืองเดอรรี่ ที่พวกเขาอาศัยอยู่ว่าทุก ๆ 27 ปี เด็กในเมืองจะหายสาบสูญ จนวันหนึ่งแก๊งคนขี้แพ้ก็ถูกรบกวนจากเพนนีไวท์ โดยมันจะปรากฏตัวเป็นอะไรก็ได้ตามที่เด็ก ๆ กลัว แล้วแก๊งคนขี้แพ้ก็ได้ค้นพบบ้านร้างแห่งหนึ่งที่ถนนเนลโบลต์29 จนได้เจอกับเพนนีไวท์และถูกโจมตีจนต้องหนีเพื่อเอาตัวรอด หลายวันต่อมาพวกเขาก็ได้รวบกลุ่มกันเพื่อไปตามล่าเพนนีไวท์อีกครั้ง เพราะเบเวอร์ลีได้หายตัวไปและได้เข้าไปบ้านร้างโดยเดินลงไปในร่องระบายน้ำจนได้เจอกับซากศพของเด็กที่ถูกกินกองเนินเป็นภูเขา เพนนีไวท์ได้ปรากฏตัวในร่างของจอร์จี้เพื่อหลอกล่อบิล บิลรู้ว่านั่นคือเพนนีไวท์แต่ก็ยอมเดินไปให้จับเพราะความคิดถึงน้องชาย หลังจากนั้นแก๊งคนขี้แพ้ก็ช่วยบิลให้หลุดพ้นจากเพนนีไวท์จนได้ และเขาก็เริ่มทำใจยอมรับได้ว่าน้องชายของเขาได้ตายจากเขาไปแล้ว หลังจากนั้นแก๊งคนขี้แพ้ก็ได้สัญญาต่อกันว่าหากเพนนีไวท์กลับออกอาละวาดพวกเขาจะกลับมารวมตัวกันและกำจัดเพนนีไวท์อีกครั้ง



FB: 1168group
Line:@1168group
IG : 1168group
Website: 1168group.com
Shopee: 1168group_official
Tel:02-732-3556-7