1168 PUBLISHING
สาระแฟนตาซี

ยมทูต ผู้นำทางดวงวิญญาณสู่ปรโลก

            เคยสงสัยกันไหมว่า เมื่อตายแล้วเราจะเดินทางไปสู่โลกหลังความตายด้วยวิธีใดกันนะ รถยนต์ ? รถม้า ? หรือว่าวาร์ปไป ? เราเองคงไม่อาจรู้ได้เพราะไม่เคยตายมาก่อน แต่มีตำนานเล่าขานกันมาว่า เมื่อเราตายไปแล้ว ปรโลกจะส่งผู้นำดวงวิญญาณมานำทางดวงวิญญาณผู้วายชนม์ทั้งหลายไปยังดินแดนหลังความตายอย่างปลอดภัย ในบทความนี้ เราจะมาเล่าความเชื่อเกี่ยวกับผู้นำดวงวิญญาณของแต่ละชนชาติให้ทุกคนฟังค่ะ

อันดับแรกที่เราจะกล่าวถึงคือ ยมทูต ผู้นำดวงวิญญาณในความเชื่อของคนไทย

          ยมทูตเป็นยักษ์ที่มีหน้าตาดุดัน ตาโตแดง ผิวดำ และนุ่งผ้าสีแดง รูปร่างน่าเกรงขามจนวิญญาณขนหัวลุกทุกตน ยมทูตมีหน้าที่รับดวงวิญญาณของผู้หมดอายุขัยในโลกมนุษย์ไปยังยมโลก โดยการรับดวงวิญญาณของยมทูตนั้น จะไปรับหลังจากที่ตายไปแล้ว 7 วัน สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะยมทูตต้องการเปิดโอกาสให้วิญญาณได้รำลึกถึงบุญกุศลที่ตนได้เคยสร้างไว้ นี่คือที่มาความนิยมของคนไทยในการจัดงานศพเป็นเวลา 7 วันนั่นเอง

          ผู้นำดวงวิญญาณลำดับต่อมาคือ อานูบิส (Anubis) เทพเจ้าแห่งความตายที่ชาวอียิปต์ให้ความเคารพนับถือมาก และเป็นเทพสำคัญในการทำ ”มัมมี่” ซึ่งเป็นพิธีการทำศพของชาวอียิปต์โบราณ อานูบิสมีลำตัวเป็นมนุษย์ ส่วนศีรษะไปจนถึงคอเป็นหมาในสีดำ อันมีความหมายถึงความตายและการเกิดใหม่

            เมื่อมีคนตาย เทพอานูบิสจะนำดวงวิญญาณของคนผู้นั้นไปยังยมโลก เมื่อถึงหอพิพากษา เทพอานูบิสจะนำหัวใจคนตายไปวางบนตาชั่ง เพื่อชั่งน้ำหนักเทียบกับ “ขนนก” ถ้าผู้ตายทำบาปไว้มาก หัวใจของเขาจะมีน้ำหนักมากกว่าขนนก ดังนั้นเทพอานูบิสจะส่งเขาไปเป็นเหยื่อให้อสุรกายในนรก แล้วอสุรกายก็จะกลืนกินหัวใจของเหยื่อ ทำให้ดวงวิญญาณตนนั้นสูญสลายไปตลอดกาล ทว่าหากหัวใจของผู้ตายมีน้ำหนักเบากว่าขนนก แสดงว่าผู้ตายเคยทำกรรมดีไว้มาก เทพอานูบิสก็จะส่งเขาไปอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า “Fields of the Reed” หรือสวรรค์ของชาวอียิปต์นั่นเอง ใครที่ชอบทำกรรมชั่วก็ต้องรีบเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นตายไปต้องโดนอสุรกายกินจนวิญญาณแตกดับเลยนะ !

            ส่วนเทพเจ้าแห่งความตายตามความเชื่อของชาวแอซเท็ก กลุ่มชาติพันธุ์ในทางตอนกลางของแม็กซิโก มีชื่อว่า โชโลตล์ (Xolotl) เทพที่มีรูปร่างเหมือนสุนัข ผู้นำพาดวงวิญญาณทั้งหลายข้ามแม่น้ำแห่งความตาย ท่านนอกจากนี้จะเป็นเทพแห่งความตายแล้ว เทพโชโลตล์ยังเป็นผู้พิทักษ์ดวงอาทิตย์ เป็นเทพแห่งฟ้าผ่าและเป็นเทพที่นำไฟจากนรกมาให้มนุษย์อีกด้วย จุดเริ่มต้นของการเป็นเทพแห่งความตายอาจมาจากวีรกรรมเมื่อครั้งกำเนิดมนุษย์ เทพโชโลตล์และเทพเควตซัลโคแอทเทิล ฝาแฝดของพระองค์ได้ไปนำกระดูกมนุษย์มาจากยมโลกเพื่อนำมาสร้างมนุษย์ในโลกยุคใหม่ ทั้งสองต้องฝ่าอันตรายเกือบถึงแก่ชีวิตกว่าจะนำกระดูกจากปรโลกกลับมาได้ ดังนั้นชาวแอซเท็กจึงสำนึกบุญคุณอยู่เสมอและเคารพเทพโชโลตล์เอามาก ๆ เลยล่ะ

            ผู้นำดวงวิญญาณลำดับสุดท้ายที่เป็นที่รู้จักกว้างขวาง คือ กริม รีปเปอร์ (Grim Reaper) ผู้นำดวงวิญญาณตามความเชื่อของชาวยุโรป มีหน้าที่นำดวงวิญญาณไปสู่ดินแดนหลังความตาย กริม รีปเปอร์มีร่างเป็นโครงกระดูก สวมเสื้อคลุมที่มีหมวกคลุมศีรษะสีดำยาว อาวุธประจำกายคือเคียวด้ามยาวที่มีไว้ใช้ตัดสายใยสุดท้ายที่ระหว่างเชื่อมวิญญาณกับร่างกาย บางครั้ง กริม รีปเปอร์อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ชาวยุโรปจึงมีความเชื่อว่า หากหลอกล่อหรือติดสินบนกริม รีปเปอร์ จะสามารถยืดอายุต่อไปได้ ใครที่บังเอิญเจอกริม รีปเปอร์ก็ต้องมีสตินิดนึงนะ เพราะถ้าไปติดสินบนแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ในอนาคตอาจจะเสียใจภายหลังก็เป็นได้


            แม้ว่าความเชื่อจะมีหลากหลาย แต่ผู้นำทางผู้วายชนม์ทุกองค์ก็มีหน้าที่เดียวกันคือนำพาดวงวิญญาณไปยังปรโลกเพื่อรับผลบุญผลกรรมที่แต่ละคนกระทำครั้งยังมีชีวิตอยู่ หากอยากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับยมทูตมากกว่านี้ สำนักพิมพ์ 1168 ก็ขอแนะนำเรื่อง “Reaper’s Arrow วิกฤตการณ์ยมทูตป่วนแก๊งมาเฟีย” ยมทูตนามว่า ‘เกล’ ในเรื่องนี้ต่างจากยมทูตคนอื่น ๆ เพราะเขาดันมีอาวุธพันธสัญญาเป็นศรกามเทพแทนที่จะเป็นเคียวยมทูตเหมือนชาวบ้านชาวช่อง ว่าแต่.. เกลจะใช้ศรกามเทพตัดสายวิญญาณคนตายได้อย่างไรกันล่ะเนี่ยยย


เรียบเรียงโดย : นักศึกษาฝึกงาน น้องกรณ์นภัส

แหล่งอ้างอิง ::  

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 
– https://th.wikipedia.org/ 
– https://ru.wikipedia.org/ 
– https://en.wikipedia.org/

บทความ : ตำนานเทพแห่งความรักความปรารถนาก