เรื่องเล่าของเหล่าอสรพิษในตำนาน ภาค 1

งอ งอ งอ ง๊อ ง๊อ งอ งอ งู๊ รีบมาเข้าฝันหนู ถ้างูได้ยินเสียง ~

อะแฮ่ม ! กราบสวัสดีพี่น้องนักอ่านทุกท่าน วันนี้แอดมินก็นำบทความน่าสนใจมาฝากอีกแล้วว คงจะทราบกันดีใช่ไหมว่าเรื่องที่จะนำมาเล่าให้ฟังนั้นเป็นเรื่องอะไร อะโธ่ ! เปิดด้วยเพลงซะขนาดนั้น ไม่รู้ก็แปลกแล้ว ฮ่า ๆ แอดมินเชื่อว่าหลายคนคงได้ยินตำนานของเจ้าสัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้มาไม่มากก็น้อยแล้วล่ะ แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยรู้มาก่อนหรือรู้เพียงบางตำนาน ขอบอกเลยว่า ถึงจะอยากมีคู่รักขนาดไหนแต่ขอไม่ฝันเห็นจะดีกว่า !! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญทุกท่านเลื่อนลงไปอ่านได้เลยนะจ๊ะ

ข้อควรระวังในการอ่าน : อย่าอ่านขณะนั่งถ่ายหนักอยู่บนชักโครก เพราะท่านอาจเกิดความระแวงจนไม่สามารถทำธุระส่วนตัวให้เสร็จลุล่วงได้ หักเก็บไว้ถ่ายครั้งต่อไปมันไม่ดีต่อร่างกายนะจ๊ะ คิกคัก~

เรื่องเล่าที่ 1 : JORMUNGAND

ยอร์มุนกานด์ หรือ มิดการ์ดเซอร์เพนท์ งูยักษ์ในตำนานเทพปกรณัมของนอร์ส ซึ่งเป็นลูกคนกลางของเทพโลกิและนางยักษ์อังเกอร์โบดา และยังเป็นหนึ่งในลางบอกเหตุที่จะทำให้เกิด ‘ชะตากรรมของเหล่าทวยเทพ’ หรือ ‘แร็กนาร็อค (Ragnarok)’ ตามคำทำนาย จึงถูกป๋าโอดินจับเหวี่ยงลงมายังมหาสมุทรในดินแดนมนุษย์ แต่เจ้างูยักษ์ดันไม่ตาย ซ้ำยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีความยาวขนาดที่เลื้อยพันรอบโลกได้หลายรอบทีเดียว

เมื่อถึงวันแร็กนาร็อค ยอร์มุนกานด์ได้สร้างสึนามิและพายุกวาดล้างทุกสรรพชีวิตให้ถึงแก่ความตาย แต่สุดท้ายก็ถูกพี่ธอร์ใช้ค้อนทุบหัวตาย เช่นเดียวกับพี่ธอร์ที่ถูกฝังเขี้ยวอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนเข้าไปโรมรัน พิษของเจ้างูยักษ์ทำให้จอมเทพก้าวเดินได้เพียง 9 ครั้งก่อนล้มลงสิ้นใจข้างๆ กัน

“The children of Loki”
pic.https://en.wikipedia.org/wiki/Jörmungandr

เรื่องเล่าที่ 2 : BASILIK

*Serpentum, et draconum historiae libri duo* ของ Ulisse Aldrovandi
pic.https://en.wikipedia.org/wiki/Basilisk

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับ ‘บาซิลิสก์’ ตัวนี้ ดวงตาเป็นประตูสู่ยมโลก เท่านั้น…

กล่าวกันว่าบาซิลิสก์เกิดจากไก่ตัวผู้ที่มีอายุ 7 ปีออกไข่ไว้บนกองปฏิกูลในวันที่กลุ่มดาวซิริอัส (Sirius) หรือกลุ่มดาวหมาใหญ่ (Dog Star) ขึ้นสู่ท้องฟ้า และไข่ใบนี้ถูกคางคกมาทำหน้าที่แทนพ่อไก่โดยการนอนกกมันเองซะเลย เมื่อบาซิลิสก์ฟักตัวออกมาจึงกลายเป็นงูที่มีความเป็นไก่และคางคกผสมอยู่ด้วย

ความน่ากลัวของบาซิลิสก์ไม่ใช่แค่เกิดเป็นงูมีพิษเท่านั้น แต่มันเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก และที่เกริ่นด้วยวลี ดวงตาเป็นประตูสู่ยมโลก นั้นก็เพราะว่าเมื่อสิ่งมีชีวิตใดเผลอจ้องตาของมันเข้า บางตำนานบอกว่าจะกลายเป็นหิน บางตำนานบอกว่าล้มตายทันที ไม่เพียงแต่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตเท่านั้น สิ่งไม่มีชีวิตก็โดนลูกหลงไปด้วยเช่นกัน เพราะลมหายใจของมันล้วนแล้วแต่เป็นพิษทั้งสิ้น เมื่อไปที่ใด ที่นั่นจะกลายเป็นทรายทันทีที่ถูกพิษจากลมหายใจนั้น

เห็นพี่ท่านแข็งแกร่งอย่างนี้ แต่กลับมีจุดอ่อนได้น่ารักมากกกก บทจะตายก็ตายง๊ายง่าย เพียงแค่ได้ยินเสียงไก่(ตัวผู้)ขันเมื่อไรพี่ท่านขาดใจตายทันที อีกวิธีคือเลี้ยงวีเซิลค่ะ เขาบอกว่าวีเซิลเป็นสัตว์ที่ทนต่อสายตาและไอพิษของบาซิลิสก์ได้ และวิธีสุดท้ายคือพกกระจกไว้ ถ้าเจอเมื่อไรให้ยกกระส่งใส่บาซิลิสก์ เมื่อมันจ้องมองตัวเองในกระจกก็ซี้แหงแก๋ทันทีเช่นกัน ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวจริงๆ นะเนี่ย

เรื่องเล่าที่ 3 : LEVIATHAN

*“การสังหารเลวีอาธาน”*
pic.https://en.wikipedia.org/wiki/Leviathan

เปิดตัวอย่างอลังการกับสัตว์ร้ายมากอิทธิฤทธิ์ใต้ทะเลลึก เป็นความเชื่อและตำนานของชาวฮิบรูชนชาติอิสราเอล และยังถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิลหลายข้อด้วยกันถึง ‘เลวีอาธาน งูยักษ์แห่งท้องทะเล’

ในคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงลักษณะของเลวีอาธานไว้ว่า เป็นสัตว์ทะเลขนาดยักษ์ มีโครงร่างที่แข็งแกร่ง ตามลำตัวยึดกับเกล็ดถึงสองชั้น ติดกันหนาแน่นขนาดที่ลมก็ผ่านไปไม่ได้ และไม่มีอาวุธใดทำอันตรายแก่มันได้เลย ดวงตาส่องสว่างเหมือนแสงแดดยามรุ่งอรุณ ฟันแหลมคมน่าสยดสยอง ทั้งยังพ่นไฟได้ และหัวใจของมันก็แข็งแกร่งราวแท่นหินโม่

อีกตำนานเล่าขานว่า เลวีอาธานเคยเป็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่คิดกบฎต่อพระเจ้า จึงถูกเตะส่งลงมาจองจำในผืนทะเล อิจฉาที่พระเจ้านั้นมีพลังมากกว่าตนไม่พอ ยังอิจฉามนุษย์ที่ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระในขณะที่ตนอยู่ได้เพียงในน้ำ เลวีอาธานจึงเป็นสัญลักษณ์ความบาปในเรื่องของความริษยา (อิจฉาเก่งงงง)

นักเดินเรือแถบยุโรปเองก็มีความเชื่อในเรื่องของสัตว์ร้ายตัวนี้เช่นกัน ว่ากันว่าเรือที่ล่องผ่านน่านน้ำมักจมลงด้วยฤทธิ์น้ำวนขนาดยักษ์ นักล่มเรือในตำนานต้องยกให้พี่เลวีอาธานตัวนี้นี่แหละ !

แต่วิทยาศาสตร์มักจะเป็นคู่อริของตำนานปรัมปราเสมอ… เมื่อมีคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า เลวีอาธานอาจเป็นวาฬสเปิร์ม หรือไม่ก็ไดโนเสาร์ที่อาศัยในน้ำอย่าง โครโนเซารัส เท่านั้น

*Behemoth and Leviathan, by William Blake*
pic. https://en.wikipedia.org/wiki/Leviathan

เรื่องเล่าที่ 4 : TSUCHINOKO (ツチノコ )

井出道貞『信濃奇勝録』
pic.https://ja.wikipedia.org/wiki/ツチノコ

หนักไปทางฝั่งตะวันตกกันเยอะแล้ว แอดมินจะพาบินลัดฟ้ามาทางบ้านใกล้เรือนเคียงกันบ้าง ขอเชิญสัตว์ปริศนาสัญชาติญี่ปุ่นนามว่า ‘สึจิโนะโกะ’ ขึ้นเวทีค่าา (ปรบมือเปาะแปะ)

แม้ในรูปจะดูเหมือนหนอนหรือพลานาเรียไปสักนิด แต่เจ้าสึจิโนะโกะตัวนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นเพียง ‘สัตว์ลึกลับที่ยังไม่ได้ถูกยืนยันว่ามีตัวตนอยู่จริง’ แต่เนื่องด้วยรูปร่างลักษณะคล้ายงูทว่ามีลำตัวสั้นและป้อมกว่างูทั่วๆ ไป ใต้ท้องแบน หางเรียวเล็ก ผู้คนจึงสันนิษฐานว่าอาจเป็นงูสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่ถูกค้นพบจริงๆ จังๆ ก็เป็นได้

คนบางกลุ่มบอกว่าแท้จริงแล้วสึจิโนะโกะคือกิ้งก่าลิ้นสีน้ำเงิน (Blue-tongued lizard) ลักษณะเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นขาทั้งสี่ข้าง แต่ก็ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่เคยเจอสึจิโนะโกะจริงๆ และนำมาเล่าปากต่อปากเรื่อยมา

สึจิโนะโกะชอบกินสาเกญี่ปุ่น โปรดปรานกลิ่นหมึกแห้งย่าง ซุปมิโซะ และเส้นผมที่ถูกเผา เสียงร้องของมันคล้ายแมวขู่ดัง “จี่…จี่…” อธิบายซะคาวาอี้สึโก้ยขนาดนี้ มุมโหดคุณน้องเขาก็มีนะจ๊ะ แม้รูปร่างจะอ้วนตุ้ยนุ้ย แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนที่แม้แต่น้อย แถมยังว่องไวอีกต่างหาก มันสามารถกระโดดได้ไกลถึง 2 เมตร และพุ่งขึ้นได้สูงถึง 5 เมตร ! หากวันไหนดวงซวยเดินไปเจอพี่สึจิโนะโกะเข้า ทางที่ดีควรวิ่งหนีแบบซิกแซกเข้าไว้นะคะ ดริฟท์ได้ดริฟท์เลย! (ฮา)